"""คนดี"" ไม่เห็น ""คนชั่ว""
ถ้าเราเป็นคนดีจริง จะมองไม่เห็นคนชั่วแม้แต่คนเดียว ที่เป็นเช่นนั้น...เพราะสายตาของคนดี จะมองโลกไปในทางสร้างสรรค์ เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ความรัก และการให้อภัย
ในทางตรงกันข้าม... ยิ่งเราเห็นว่ามีคนชั่วมากเท่าไหร่ ก็เป็นไปได้ว่า เรานั่นแหละที่ชั่วเสียเอง เพราะไม่มีคนดีที่ไหน สนใจความชั่วของคนอื่น... มากกว่าของตนเอง
ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ จงอย่าเพ่งโทษผู้อื่น เพราะนอกจากจะไม่ก่อประโยชน์แล้ว ยังเป็นสิ่งที่สูบกินเวลาชีวิตให้สูญไปเปล่า ๆ ถ้าเขาไม่ดี แล้วเราไปวิจารณ์ จิตใจเราจะขุ่นมัว แต่ถ้าเขาดี แล้วเราไปวิจารณ์ เราเองนั่นแหละ ที่จะเป็นคนไม่ดีเสียเอง สรุปแล้ว ไม่ว่าเขาจะดีหรือไม่ เราก็เสียทั้งขึ้นทั้งล่อง
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
"...ใครประมาท ทำความมัวหมองให้แก่จิตใจตนเอง มากน้อยแค่ไหนก็ตาม ไม่มีใคร ๆ เห็นก็ตาม ไม่ได้ยินก็ตาม แต่สิ่งอันลึกลับเกินกว่าจิตของมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ๆ ก็ย่อมรู้เห็นได้และยังมีอีกมาก เพราะว่า ผู้มีจิตละเอียดจริง ๆ ยังมีอยู่ จงอย่าปฏิเสธความจริงในข้อนี้..." โอวาทธรรมคำสอน.. องค์หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต
"...ผู้จะทำให้ถึงมรรค-ผล-นิพพานได้นั้น จะต้องทำทางใจ ถ้าไม่ทำทางนี้แล้วจะทำการกุศลสักเท่าไร ก็ถึงมรรค-ผล-นิพพานไม่ได้ นิพพานนี้จะต้องถึงด้วยข้อปฏิบัติทางใจเท่านั้น ที่เรียกว่า "ศีล สมาธิ ปัญญา"
ศีล เป็นเหตุแห่งสมาธิ สมาธิ เป็นเหตุแห่งปัญญา ปัญญา เป็นเหตุแห่งวิมุตติ
สมาธิ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นที่ตั้งแห่งปัญญาและญาณ อันเป็นองค์สำคัญของมรรค จะขาดสมาธิไม่ได้ ถ้าขาดแล้วก็ได้แต่จะคิดๆนึกๆเอา ฟุ้งซ่านไปต่างๆ ปราศจากหลักจากฐานที่สำคัญ..."
โอวาทธรรมคำสอน.. องค์ท่านพ่อลี ธัมมธโร
|