นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ 23 พ.ย. 2024 4:04 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 159 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 18 ม.ค. 2022 11:07 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
พระรอดหนองมน ลพบุรี เนื้อชินตะกั่วสนิมแดง

สภาพสมบุกสมบัน เจ้าของเดิมเป็นทหารพลร่มลพบุรีแขวนลวดติดตัวจนเกษียณแต่ไม่ใช่ของพ.ต.สุวรรณนะครับ

ประวัติความเป็นมาของพระกรุวัดหนองมน จังหวัดลพบุรี มีหลวงตาองค์หนึ่งของวัดหนองมนชื่อว่าหลวงตาแขก
เป็นผู้นำพระนี้มาจากจังหวัดพิจิตร นำมาครั้งละมาก ๆ เมื่อหลวงตาแขกอดีตเจ้าอาวาสมรณภาพ
จึงมีการบรรจุกรุ และแตกกรุครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๙ และแตกอีกหลาย ๆ ครั้ง

ทหารพลร่มคนหนึ่ง บูชาพระรอดหนองมนคล้องคอองค์เดียว คือ จ.ส.อ.สุวรรณ อ้นองอาจ (ครูฝึก)
ปัจจุบันเกษียณแล้ว ได้ยศ พ.ต. ได้ทำการกระโดดนำ
ให้นักเรียนโดดตาม เป็นคนแรก ร่มนั้นเกิดเอ๊กซิเด็นท์ไม่กาง

ร่างของจ่าสุวรรณ ลอยละลิ่วปลิวลงมาสู่พื้นดินด้วยความเสียวสยอง
พื้นที่นั้นคือป่าไม้รวกบนยอดเขาเอราวัณนั่นเอง ร่างกายของจ่าสุวรรณหล่นลงมากลางป่าไม่ไผ่-ไม้รวก
ร่มค้างเติ่งติดยอดไผ่ เจ้าหน้าที่ควบคุมการกระโดดร่มเห็นเหตุการณ์นั้นร้องอุทานออกมา "รอดได้อย่างไง เนี่ย!"


รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 26 ม.ค. 2022 9:07 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
พระพันแปดไฟหลวงพ่อสาย วัดหนองสองห้อง จ.สมุทรสาคร
พิมพ์พระโมคคัลลาพระสารีบุตร ด้านหลังมีจาร


วัตถุมงคลที่นิยมและมีประสบการณ์มากรุ่นหนึ่ง ของหลวงปู่สาย ก็คือ พระเครื่องพันแปดไฟ ท่านสร้างเนื่องในโอกาส แจกศิษย์ที่ไปสงครามอินโดจีนและสงครามเกาหลี ที่เรียกว่าพระพันแปดไฟ นั้น เพราะ หลวงปู่ได้ใช้แผ่นตะกั่วมาลงอักขระปลุกเสกแล้วนำไปหลอม เมื่อหลอมเสร็จ เมื่อแผ่นตะกั่วเย็นก็นำมาลงอักขระอีก แล้วนำไปหลอมใหม่ ทำเช่นนี้เรื่อยๆ จนครบ ๑,๐๐๘ (หนึ่งพันกับแปดครั้ง) จึงเรียกว่า พระพันแปดไฟ สร้างประมาณปี พ.ศ. ๒๔๘๕-๒๔๘๗


รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 26 มี.ค. 2022 11:24 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
หลวงพ่อทิม วัดสระเกศ กรุงเทพมหานคร
ได้รับฟังถึงคำบอกเล่าของหลวงพ่อฤาษีฯมาตลอดถึงคุณธรรมของท่าน


หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

พอมีความรู้สึกตัว เอ...นี่มันไม่ใช่สวรรค์นี่หว่า เห็นภูเขาทอง ดันเป็นวัดสระเกศไอ้บนสวรรค์มันไม่มีภูเขาทองเสือกมาได้ยังไง ก็เลยกลับ พอคิดจะกลับก็ปรี๊ดขึ้นไปข้างบนพอคิดจะกลับวัดไม่ไปเสียแล้ว ขึ้นไปอีก ไปถึงไปเจอะพระพุทธเจ้าท่าน ก็ไปกราบๆ

ท่านถามไปไหนว่า

บอก "ผมนึกว่าสวรรค์กลายเป็นวัดสระเกศ"

ท่านก็เลยบอกว่า

"องค์นั้นเป็นพระอรหันต์นะ ที่ไปฉันให้ไปเอง จะได้รู้ว่าเวลานี้อรหันต์ยังมีอยู่ในโลก"

ก็เลยถามท่านว่า

"มีองค์เดียวหรือ...?"

ท่านบอกว่า

"ไม่ใช่ มีหลายองค์

มีวันหนึ่งนั่งกรรมฐานอยู่ที่อยุธยา นั่งเพลินๆ หลุดพลั๊วะ ไม่ได้ไปสวรรค์ นรกหรอก เสือกไปกรุงเทพฯ ไม่รู้มันไปยังไง ไปยืนปุ๊กอยู่หน้าประตู เอ....กุฏิใครหว่าหมาเยอะจัง หมาขี้เรื้อนก็เยอะ องค์นี้ท่านเจอหมาไม่ได้ ถ้าไม่มีเจ้าของนะ ซื้อขนมล่อเอามาเลี้ยง หมาขี้เรื้อนนี่ห่วงมากเพราะไม่มีใครเขาเมตตา กุฏิท่านเต็มไปด้วยหมา อย่างนั้นฉันว่าดีหมาขี้เรื้อนไปนอนด้วยมันก็เหม็น ใครไปคุยอยู่ไม่ได้นานหรอก ไปไม่ต้องไล่ คือไม่ต้องหาทางไล่


แล้วไปดูท่านๆ ก็ไม่เคยแสดง แต่คนเข้าใจผิดคิดว่าตั้งแต่พระโสดาบันถึงพระอรหันต์ต้องนั่งหลับตา มันไม่ใช่ ท่านก็ทำตัวปล่อยเป็นธรรมดา ยิ่งธรรมดากว่าพระปกติ พระปกติยังระวังตัว พระอรหันต์นี่ไม่ระวัง คือว่าอาบัติเขาไม่มีอย่างหนึ่ง การละเมิดอาบัติหนักเขาไม่มี เรื่องการทำชั่วเขาไม่มี สำหรับด้านจริยาอาจพลาดบ้าง จริยาคือการแสดงออกทางกายด้วยความประพฤติเล็กน้อยนี่นะ มันอาจผิดพลาดบ้างแต่พระพุทธเจ้าทรงยกโทษหมดทุกสิกขาบท เขาก็มีความสุข


รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 29 มี.ค. 2022 8:42 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
รูปท่านพ่อเที่ยง น่วมนามา(รูปกรมอู่ทหารเรือ)
ผิวปรอทหลังจารลายมือพ่อเที่ยง มีคำว่า "เที่ยง" ขอมลาวอยู่ด้านล่าง

รูปภาพฆราวาสที่แพง
และเป็นที่นิยมมากท่านหนึ่งในประเทศไทย
ว่ากันว่าสวย ๆ ถึงหกหลักเลย...

รูปพ่อเที่ยงที่ไม่นับของปลอมเลียนแบบจะมีสองลายมือคือ...ที่ทันพ่อเที่ยงจารอธิษฐาน
จิต และพ่อป่องจารอธิษฐานจิต
ดูที่ความเก่าของภาพและหมึกจาร...ที่สำคัญรูปพ่อเที่ยงจารท่านจะเขียนคำว่า "เที่ยง" ขอมลาวกำกับไว้ แต่ถ้าพ่อป่องจารจะไม่มีคำว่า "เที่ยง"


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 12 เม.ย. 2022 1:37 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
ของดีราคาถูก...เจอที่ไหนเก็บบูชาได้เลยหลักสิบถึงหลักร้อยเองครับ
เหรียญพระธาตุพนมหลังแบบ พิมพ์เล็กลงยาสีชมพู ปี๒๔๘๒เนื้อฝาบาตร (เท่าที่เห็นมีเนื้อฝาบาตรเนื้อเดียว)

เหรียญมีทั้งหลังอุดคลั่ง และไม่อุดมีกะไหล่ทอง และลงยาสีต่าง ๆ สร้างคล้ายกันสองครั้ง
คือครั้งแรกปี๒๔๘๒ และครั้งที่สองปี ๒๔๙๔ แตกต่างกันคือห่วงเชื่อม ปี๒๔๘๒ ห่วงไม่เชื่อมปี๒๔๙๔
และพิมพ์ถึงใกล้เคียงกันแต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว
เป็นเหรียญพิธีเดียวกับเหรียญพระธาตุพนม หลังแบบ พิมพ์ใหญ่

พระครูวิโรจน์ รัตโนบล (บุญรอด) วัดทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี อธิษฐานจิต
บูชาแทนเหรียญพระธาตุพนมหลังแบบพิมพ์ใหญ่ ปี ๒๔๘๒ เหรียญพระธาตุพนมช่วยไทย ๒๔๘๓ที่มีราคาหลักหมื่น
และเหรียญรูปเหมือนท่านที่ราคาหลักแสนได้เลยครับ


รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 05 พ.ค. 2022 11:03 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
เหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ จ.ปัตตานี ปี๒๕๐๙ เนื้ออัลปาก้าชุบนิเกิล
เป็นเหรียญเดียวที่อาราธนาบูชาทั้งพระพุทธเจ้า และหลวงปู่ทวด หลวงพ่อทิม
เพราะด้านหลังมีองค์พระประทับยืนในพระสถูปที่บรรจุอัฐิธาตุหลวงปู่ทวด


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 06 พ.ค. 2022 10:25 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
เหรียญหลังเต่า รุ่นแรกเจ้าคุณนร วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ

แท้แต่ไม่อธิษฐานจิต จะดูยังไง จับพลังเหรอทำไม่เป็นครับ ดังนั้นเพื่อนเลยบอกถ้าแขวน บูชาเอง บูชาแบบไม่แตก ไม่เขยื้อนปลอดภัยสุด ได้รับการอธิษฐานจิตแน่นอน เพื่อนเขาพูดมาก็มีเหตุผล...

ผมมีเพื่อนสร้างพระหลายท่าน หนึ่งในที่มีชื่อเสียงคือคุณเนาว์ นรญาณ ผู้สร้างและที่ปรึกษาการสร้างพระ ที่คนรู้จักมากคือ ล็อกเก็ตพุทธาจาโรหลวงปู่สิม ล็อกเก็ตหลวงปู่ชอบ พระกริ่งไจยะเบ็งชรครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง พระแก้วหลังพระพุทธบาทสี่รอย พระกริ่งพุทโธคลังคุณแม่บุญเรือนฯลฯ

เขาแนะนำว่า ถ้าจะเก็บไว้บูชา ให้เลือกแบบไม่แตก ไม่เขยื้อน ไว้เพราะในการสร้างเหรียญเมื่อเริ่มปั๊มจะไม่แตก ไม่มีเขยื้อน แต่พิมพ์ไปนาน ๆ บล็อกก็จะมีการแตกชำรุด เขยื้อนบ้าง

และที่สำคัญในการสร้างเหรียญแต่ละครั้งทางโรงงานจะมีการเผื่อไว้จากที่สั่งประมาณหลายเหรียญหลักสิบถึงร้อยเลย แล้วแต่งานเพื่อคัดแยกที่ชำรุด ดังนั้น เหรียญที่ไม่แตก ไม่เขยื้อนจึง ส่งมอบทั้งหมด
แต่เหรียญที่แตก เขยื้อนมีส่วนหนึ่งที่อยู่ที่โรงงาน แล้ว!!!...แล้ว... เหรียญเหล่านั้นไปไหนหมดจากโรงงานบางโรง (แต่บางโรงงานเขาก็เก็บไว้ทั้งหมดก็มีแต่น้อยมาก ๆ


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 09 พ.ค. 2022 2:05 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
ตะกรุดเมตตาหลวงปู่ปาน วัดคลองด่าน สมุทรปราการ
ยาว ๑.๕ นิ้ว กว้าง ๐.๘ นิ้ว

เขี้ยวเสือท่าน อธิษฐานจิตทางมหาอำนาจส่วนมากที่ได้บูชาจะเป็นข้าราชการ เจ้านาย
แต่ตะกรุดท่านจะลงทางเมตตามหานิยม ค้าขาย ไว้ให้พ่อค้า แม่ค้า และประชาชนทั่วไปติดตัว

เขี้ยวเสือท่านหลักแสน หลักล้าน ตะกรุดท่านพอหาได้ ไม่แพงมาก แขวนพึ่งพาพุทธคุณได้เหมือนกัน...


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 11 พ.ค. 2022 2:57 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
เหรียญรุ่นแรก กะไหล่ทอง หลวงพ่อยี วัดดงตาก้อน พิษณุโลก

ในยุคเรา ที่เสมอเราไม่มี มีแต่สูงกว่า หรือต่ำกว่า

ถึงจะมรณภาพไปแล้วแต่ท่านยังคงดูแลปกป้องลูกศิษย์ลูกหาผู้ที่เคารพท่าน
มีเหตุการณ์ยืนยัน ตอนที่เจ้าคุณโฮม วัดปทุมวนาราม กรุงเทพ (ท่านเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์มั่่น
ที่ได้รับการยืนยันจากลูกศิษย์พระอาจารย์มั่นหลาย ๆรูป ว่าเจ้าคุณโฮม มีตาทิพย์ สมาธิวิปปัสนาเป็นเลิศ

และท่านยังเป็นคณะกรรมการไปสอบสวนว่าหลวงปู่ยีอวดอุตริมนุสธรรมจริงไหม?
ผลการตรวจสอบปรากฎว่าไม่จริงเจ้าคุณโฮมท่านยืนยันว่า หลวงปู่ยีท่านทำได้จริง ของจริง
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุให้เป็นสหธรรมิกกันติดต่อกันทางสมาธิเรื่อยมา)

เจ้าคุณโฮมไปธุระที่พิษณุโลก มีหลวงพ่อถาวร ร่วมเดินทางไปด้วยพร้อมพระภิกษุอีก
และคนขับรถ รถเก๋งที่เจ้าคุณโฮมนั่งไป เกิดติดหล่มทำอย่างไรก็ไม่หลุด บรรยากาศเริ่มมืดขึ้น ๆ ทุกที
อากาศหนาวเย็น มีพระจันทร์ขึ้นแล้วก็ยังไม่มีวี่แวว ที่รถจะออกจากหล่มได้เลย คนขับรถเริ่มวิตกกังวล ถึงเหตุเภทภัยต่าง ๆ นา ๆ

แต่เจ้าคุณโฮม ไม่มีท่าทีวิตกกังวลเลย ท่านบอกว่าใจเย็น ๆ เราได้นิมนต์ หลวงปู่ยีมาช่วยแล้ว
เสียงหลวงพ่อถาวร อุทานว่า ฮึ๊ !!! หลวงปู่ยีท่านมรณภาพตั้งนานแล้ว จะมาได้ยังไงครับ
เจ้าคุณโฮมไม่ตอบ แต่ชี้ไปข้างหน้า พร้อมพูดว่า อ้าวใครดูซะ สิ่งที่ทุกคนเห็นคือ พระแก่ๆ ชรา เดินลิ่ว ๆ
มาที่รถเห็นชัดเต็มตาเพราะเป็นคืนเดือนหงายพระจันทร์ส่องสว่าง หลวงพ่อถาวรอุทานว่า หลวงปู่ยี

พระแก่นั้นยิ้มรับ แล้วบอกคนขับรถว่า ไปสตาร์ทรถได้แล้ว คนขับก็ไปสตาร์ทแบบงง ๆ
เหมือนถูกมนต์สะกด บรื๊น ๆ รถลอยได้จากหล่มเหมือนมีมือยักษ์ฉุดขึ้นยังไงยังงั้น
หลังจากรถขึ้นจากหล่มได้แล้ว เจ้าคุณโฮมก็ยกมือไหว้พระแก่นั้นท่านก็รับไหว้

และพระแก่ท่านก็อำนวยพรชัยให้เดินทางปลอดภัย แล้วเดินกลับหลังหายวับไป
หลังจากนั้นหลวงพ่อถาวร ท่านก็ศึกษาตำรับตำราหลวงปู่ยี พร้อมมาพัฒนาบูรณะวัดดงตาก้อนให้เจริญรุ่งเรืองสืบมาทุกวันนี้


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 19 พ.ค. 2022 9:25 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
พระผงโสฬสมหาพรหม หลวงปู่สนธิ์ วัดท่าดอกแก้ว นครพนม

อาจารย์ประถมเล่าไว้ว่า ในเวลาที่รับผงวิเศษนั้นมือสั่นไปหมด เพราะทราบดีว่าผงวิเศษในบาตรนั้นวิเศษเพียงใด อาจารย์ประถมจึงได้สร้างพระท่าดอกแก้ว ถวายหลวงปู่สนธ์

ผงโสฬสมหาพรหมหลวงปู่ศรีทัต วัดท่าอุเทน(ศิษย์เอกสำเร็จลุน)

การลงผงโสฬสมหาพรหมนั้น ต้องลงอักขระด้วยตัวธรรมเป็นกลยันต์ โดยถอดตัวต้นจนถึงตัวสุดท้าย ผูกสลับเป็นกลยันต์ 16 มุม ในแต่ละมุมแบ่งออกเป็น 16 ชั้น ใน แต่ละชั้นลงอักขระ 16 ช่อง อักขระแต่ละตัวแต่ละช่อง ต้องลบถมเรียกสูตร 16 คาบ ผูกอธิษฐาน เสกยันต์โสฬสมหาพรหมครบแล้วทั้ง 16 สูตรถือเป็น 1 ครั้ง และลงในระบบเดียวกันนี้ 16 ครั้ง แล้วรวมที่ลบมาอธิษฐานจิตปลุกเสกตามฤกษ์บน-ล่าง ตามตำราบังคับ เสร็จแล้วให้เอาผงวิเศษ ลูบลงในกระดานลงผง หากบังเกิดอักขระขอมธรรมของยันต์โสฬสมหาพรหมบนกระดานลงผงโดย ไม่ได้เขียน โดยใช้เพียงผงวิเศษลูบให้สำเร็จเป็นยันต์ ถือว่าสำเร็จ หากลูบแล้วไม่ปรากฏยันต์ ในกระดานลงผง จะต้องเริ่มต้นลงใหม่ตั้งแต่ต้น

ผู้ที่ลงผงวิเศษได้ครบสูตรโสฬสมหาพรหมได้ สำเร็จ จะดลบันดาลให้เทพทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 14 บาดาล 22 ชั้นพรหม ภะคะวะพรหม จน ถึง พรหมสุทธาวาส ทุกพระองค์ลงและขึ้นมาอนุโมทนาอำนวยพร

ผงวิเศษนี้มีอานุภาพอันทรงความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ผู้ที่บูชาผงวิเศษนี้จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วย ลาภ สักการะ วาสนาบารมี บริบูรณ์ไปด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติ ทรัพย์สมบัติ ปัญญา บารมีสมบัติ ปรารถนาสิ่งใด จักสำเร็จดังปรารถนา

ผงโสฬสมหาพรหมที่หลวงปู่ศรีทัตสร้างขึ้นนี้ ท่านได้นำไปสร้างพระแจกที่วัดท่าดอกแก้ว ท่านสร้างไว้ไม่มากนัก ส่วนหนึ่งเหลือท่านเก็บใส่บาตร ตกทอดมาถึงหลวงปู่สนธ์ ท่านก็ เก็บไว้เฉยๆ ไม่ได้ใช้อะไร ต่อมาท่านได้สร้างผง นวโลกุตระ ขึ้น ท่านจึงได้สร้างพระปิดตาแจก ชาวบ้าน และได้นำผงทั้ง 2 ชนิดมาใส่รวมกัน

อาจารย์ประถมเป็นศิษย์หลวงปู่เฮี้ยง และมีความชำนาญในการสร้างพระ เพราะได้ช่วยหลวงปู่เฮี้ยงสร้างพระตั้งแต่ยุคแรกๆ ของวัดป่า ( พศ.2484 ) และเมื่ออาจารย์ประถมมาถึงท่าอุเทน ได้ยินกิตติศัพท์ของหลวงปู่สนธ์ ชาวบ้านนับถือมาก และสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาจารย์ประถมนับถือ คือ มีพลทหารนายหนึ่ง อาจารย์ประถมได้ขอตัวมาช่วยงานของสหกรณ์ ได้มีเรื่องกับ ชาวบ้านและโดนยิงเข้าไป 3 ชุด กระเด็นตกน้ำ แต่ไม่ตาย เพราไม่มีระคายผิวหนัง เสื้อผ้าขาดกระจุย ทั้งตัวมีตะกรุดดอกเดียว คือ ตะกรุดเก้าแปเก้าย้อ ของหลวงปู่สนธ์

ด้วยเหตุนี้อาจารย์ ประถมจึงไปเสาะหาท่านถึงวัดและศึกษาวิชาการจากท่าน และเนื่องจากท่านเป็นผู้ที่มีความชำนาญในการสร้างพระ ท่านจึงคิดจะสร้างพระถวายหลวงปู่สนธ์ ในราวปลายปี 2493 จึงเข้าเรียนหลวงปู่สนธ์และท่านก็อนุญาต และหลวงปู่สนธ์ก็ได้มอบผงวิเศษที่มีอยู่ในบาตรใหญ่นั้น ให้อาจารย์ประถมนำไปสร้างพระ



รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 30 ส.ค. 2022 2:58 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
รูปภาพหลังจารอาจารย์ก๋งจาบ” ฆราวาสผู้เรืองวิทยาคม
ครูสอนพระกรรมฐานสำนักวัดประดู่ทรงธรรม
สหธรรมิกหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค


รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 29 พ.ย. 2022 2:25 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
มีดครูเทพศาสตราวุธ(ฟ้าฟื้น) อาจารย์ชุม ไชยคีรี

ปลุกเสกในพิธีพรหมศาสตร์ ร่วมกับพิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ ณ. วัดทุ่งเสรี วันที่ ๓๐ เมษายน ปี พ.ศ.๒๕๑๙ หัวมีดทำเป็นเศียรพระพิฆเนศบรรจุเม็ดกริ่งพิเศษ ตัวมีดผสมด้วยเหล็กตามตำราเดียวกับดาบฟ้าฟื้นของขุนแผน

สร้าง ๒,๐๐๐ เล่ม มีปลอก ๑,๐๐๐ เล่ม ไม่มีปลอก ๑,๐๐๐ เล่ม


ลงยันต์เทพศาสตราวุธทั้ง ๕ สำเร็จเป็นเทพศาสตราวุธ มีฤทธิ์มีอำนาจเหนืออาวุธของมนุษย์ มีอานุภาพทำให้ภูตผีปีศาจเกรงกลัว ติดตัวเป็นเครื่องกันอาวุธดุจเครื่องรางของขลังอื่นๆ เป็นมีดครูคู่มือครูไสยศาสตร์ หมอเฒ่า หมอยา เป็นเทพบรมครูของนักการช่างทุกชนิด


ในพิธีนี้ ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้เชิญพราหมณ์และโยคี จากประเทศอินเดีย และประเทศลังกา รวมทั้งพราหมณ์ในประเทศไทยด้วย ท่านทั้งหมดล้วนแต่เป็นผู้ที่รอบรู้ในพระเวทเรียนจบไตรเภทอย่างเชี่ยวชาญ มาทำพิธีบวงสรวงสังเวยเชิญมหาเทพตามลัทธิศาสนาพราหมณ์ พร้อมกันนี้ ได้อาราธนาพระคุณเจ้าพระสงฆ์ระดับพระอาจารย์ผู้ทรงคุณมากระทำพิธีพุทธาภิเษก ทั่วประเทศรวม ๑๐๘ คณาจารย์ มาร่วมนั่งบริกรรมอธิษฐานจิต ปลุกเสก


พุทธาภิเษก ๓ วาระ

วาระที่ ๑ พระคณาจารย์ผู้ทรงเวทย์ หลวงพ่อผู้ทรงวิทยาคุณ ปลุกเสกเดี่ยวจากทั่วประเทศ ๙๙ รูป

วาระที่ ๒ ทำพิธีปลุกเสก ณ สถานที่ตรัสรู้ ภายในบริเวณมหาวิหารพุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ พุทธคยา ต.อุรุเวลาเสนานิคม รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย บริเวณใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ใกล้แท่นวัชระอาสน์ เพราะเป็นสถานที่กว้างและมักมีผู้นำวัตถุมงคลมาปลุกเสกบ่อยๆ

วาระที่ ๓ ทำการพุทธาภิเษก ณ.อุโบสถที่วัดทุ่งเสรี กรุงเทพ วันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๑๙ มี หลวงพ่อดังๆมาร่วมมากมายเช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง เป็นต้น โดยมี อาจารย์ ชุม ไชยคีรี อาจารย์ไสว วัดราชนัดดา เป็นเจ้าพิธี


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 07 ธ.ค. 2022 8:41 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
ผ้ายันต์หัวเสาหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี

จารมือดินสอรุ่นแรก ๆ รุ่นต่อมาเป็นจารหมึก
ปฐมเหตุมาจากชาวบ้านสร้างบ้าน โรงงาน โรงแรม รีสอร์ต มีวิญญาณผีตายโหง สิ่งไม่เป็นมงคล
ทำให้กิจการ อยู่อาศัยมีปัญหา ชาวบ้านเลยมาขอผ้ายันต์หลวงพ่อแดงไปปิดหัวเสา
ทำให้ผีหาย ปัญหา อุปสรรคคลี่คลาย


"แขวนพระของฉันไม่ตายโหง ผีตายโหงมีทุกหย่อมหญ้า
แขวนของฉันมันจะหนีไม่เข้ามาใกล้ คำพูดที่หยาบคาย
โดยเฉพาะคำหยาบคายถึงพ่อแม่
จะทำให้ความดีงามเสื่อมถอย คุณพระคุณเจ้าก็จะไม่คุ้มครองป้องกัน"


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 07 ธ.ค. 2022 10:25 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
พิธีพระกริ่งแก้วปฏิมากร

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า “พระกริ่งแก้วปฏิมากร” ถือเป็นอีกหนึ่งพระกริ่งชั้นยอดในยุคหลังกึ่งพุทธกาล โดยได้มีการจัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2514 และเล่นหากันอย่างสากลว่าเป็นพระกริ่งของหลวงเกษม เขมโก แห่งสำนักสุสานไตรลักษณ์ แต่รายละเอียดในการจัดสร้างกลับไม่มีข้อมูลโดยละเอียดเท่าที่ควร หลักฐานหลัก ๆ ที่พบเห็นกันทั่วไปคือใบปลิว หรือ ใบโบว์ชัวร์ การจัดสร้าง และรูปถ่ายในงานพิธีขณะหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี นั่งปลุกเสกและมีหลวงพ่อเกษม เขมโกนั่งอยู่ด้วย สำหรับวันเวลาในการประกอบพุทธาภิเษกถูกระบุไว้แต่เพียงว่าประมาณต้นปี พ.ศ. 2514 ณ วัดเกาะวาลุการาม กำหนดแน่นอนจะประกาศให้ทราบภายหลังอีกครั้ง

จากการค้นคว้าเพิ่มเติมทำให้ทราบว่า พระกริ่งแก้วปฏิมากรได้ทำพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดเกาะวาลุการาม ในวันเสาร์ที่ 10 เมษายน 2514 ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 (7 เหนือ) ซึ่งมีกำหนดการโดยย่อ ดังนี้

เวลา 07.00 น. พราหมณ์ประกอบพิธีบวงสรวงพระบูรพาจารย์และอดีตผู้มีอุปการะคุณของจังหวัดลำปาง
ต่อมาในเวลา 09.30 น. คณะกรรมการทุกฝ่ายไปถวายเครื่องสักการะบูชาแด่พระเจ้าแก้วมรกต ณ วัดพระธาตุลำปางหลวง จนกระทั่งเวลา 14.00 น. พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์และคณะพราหมณ์ กรรมการประกอบพิธีบวงสรวงเทพยดาทั่วท้องจักรวาล บูชาพระฤกษ์
ครั้นเวลา 14.50 น. ได้อุดมฤกษ์อันเป็นมหามงคล บัณฑิตลั่นฆ้องชัย “สมเด็จพระวันรัตน์” ทรงอธิษฐานเจิมเทียนชัยและจุดเทียนชัย พราหมณาจารย์เป่าสังข์ เคาะบัณเฑาะ เป่าแตร สังข์ ดนตรีประโคมเพลงมหาฤกษ์มหาชัย พระราชครูวามเทพมุนีอาราธนาพระปริตร พระราชาคณะ 11 รูป ดังนี้
(1) เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพน พระนคร
(2) เจ้าคุณพระธรรมราชานุวัตร วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่
(3) เจ้าคุณพระราชปัญญาโสภณ วัดราชนัดดา พระนคร
(4) เจ้าคุณพระราชสุพรรณาภรณ์ วัดสุวรรณภูมิ จังหวัดสุพรรณบุรี
(5) เจ้าคุณพระราชสุตาจารย์ วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน
(6) เจ้าคุณพระภัทรสารมุนี วัดพระบาทมิ่งเมือง จังหวัดแพร่
(7) เจ้าคุณพระสิทธิปัญญาภรณ์ วัดบุญวาทย์วิหาร จังหวัดลำปาง
(8)พระครูประสาธน์สุตวัฒน์ วัดน้ำล้อม จังหวัดลำปาง
(9) พระครูวิทิตธรรมคุณ วัดหลวง อำเภองาว จังหวัดลำปาง
(10) พระครูประสิทธิ์บุญวัฒน์ วัดสวนดอก จังหวัดลำปาง
(11) พระครูศรีปริยัติกิติ์ วัดสิงห์ชัย จังหวัดลำปาง

โดยสมเด็จพระวันรัตน์ทรงเป็นองค์ประทานเจริญพุทธมนต์ พระเกจิอาจารย์เข้านั่งปรกรอบมณฑลพิธีภาวนาตลอด จบแล้วเจ้าประคุณสมเด็จทรงประพรมน้ำพระพุทธมนต์
ครั้นเวลา 19.30 เริ่มพิธีพุทธาภิเษก พระพิธีธรรมเข้าประจำที่ ประธานกรรมการถวายสักการบูชา จุดเทียนพุทธาภิเษก พระมหานาคสวดพุทธาภิเษก สลับพระพื้นเมือง พระเกจิอาจารย์ชุดแรกนั่งปรก ดังนี้
(1) เจ้าคุณพระราชปัญญาโสภณ (หลวงพ่อสุก) วัดราชนัดดา พระนคร
(2) เจ้าคุณพระราชมุนี (หลวงพ่อโฮม) วัดประทุมวนาราม พระนคร
(3) เจ้าคุณพระวิบูลเมธาจารย์ (หลวงพ่อเก็บ) วัดดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี
(4) เจ้าคุณพระรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถิร์) วัดป่าเลไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรี
(5) เจ้าคุณพระสังวรกิจโกศล (หลวงพ่อบุญเลิศ) วัดราชสิทธาราม ธนบุรี
(6) พระครูพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
(7) พระครูพิทักษ์วิหารกิจ (หลวงพ่อสา) วัดราชนัดดา พระนคร
(8)พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลาง พระนครศรีอยุธยา
(9) พระครูกัลยาณวุฒิคุณ วัดท่าเจริญ อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี
(10) พระครูสุตาธิการี (หลวงพ่อทองอยู่) วัดใหม่หนองพะอง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
(11) พระครูนนทกิจวิมล (หลวงพ่อชื่น) วัดตำหนักเหนือ จังหวัดนนทบุรี
(12) พระครูวิริยกิตติ (หลวงพ่อโต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี อำเภอภาษีเจริญ ธนบุรี
(13) พระครูพิพิธวิหารการ (หลวงพ่อเทียม) วัดกษัตราธิราช พระนครศรีอยุธยา
(14) หลวงพ่อติ๊บ อุปสิ วัดผาปังหลวง อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง
(15) ครูบาโต วัดบุญยืน อำเภอพะเยาว์ จังหวัดเชียงราย
(16) พระครูศรีปริยัติยานุตรักษ์ (หลวงพ่อไฝ) วัดพันอ้น จังหวัดเชียงใหม่
(17) หลวงพ่อพรหมจักร วัดน้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
(18) พระครูวรเวทวิธาน (หลวงพ่อปรีดา)
(19) หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง จังหวัดเพชรบุรี
(20) พระครูศรีปทุมรัตน์ (หลวงพ่อท่าฉลอง) วัดศรีบัวบาน จังหวัดสุพรรณบุรี
(21) ครูบาวงศ์ วัดท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน
(22) หลวงพ่อแสน วัดท่าแหน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง
(23) หลวงพ่อปี้ วัดลานหอย อำเภอลานหอย จังหวัดสุโขทัย

ต่อมาเวลา 01.00 น. พระเกจิเถราจารย์ เข้าประจำที่นั่งปรก ชุดที่ 2 ประกอบด้วย
(1) พระครูอุดมเวทวรคุณ (หลวงพ่อเมือง) วัดท่าแหน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง
(2) พระครูธีรธรรมวัฒน์ (หลวงพ่อมอย) วัดกาสา อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
(3) หลวงพ่อวัดถ้ำปุ่มถ้ำปลา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
(4) พระครูใบฎีกาศรีศักดิ์ วัดฉิมพลี อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย
(5) พระครูรัตนานุรักษ์ (หลวงพ่อแก้ว) วัดปงสนุกใต้ จังหวัดลำปาง
(6) พระครูอินถา วัดพระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง
(7) พระครูพินิจ วัดกระจับพินิจ ธนบุรี
(8) หลวงพ่อวงศ์ วัดป่าใคร้ใต้ อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง
(9) หลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ ประตูม้า จังหวัดลำปาง
(10) พระครูสถาพรพุทธมนต์ (หลวงพ่อสำเนียง) วัดเวฬุวนาราม จังหวัดนครปฐม
(11) หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู จังหวัดลพบุรี
(12) พระครูหลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
(13) หลวงพ่อผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส พระนคร
(14) พระครูวินัยธรศรีนวล ชินวังโส วัดศรีล้อม จังหวัดลำปาง
(15) หลวงพ่อมิ วัดสิงห์ อำเภอบางพลัด ธนบุรี
(16) พระครูสมุห์อำพล วัดประสาทบุญญาวาส พระนคร
(17) พระอาจารย์สมคิด กิตติสาโร วัดราชนัดดา พระนคร
(18) พระครูโสภณปัญญาคุณ (หลวงพ่อโสม) วัดหัวข่วง จังหวัดลำปาง
(19) พระอาจารย์ชุบ ทินนโก วัดเกาะวาลุการาม จังหวัดลำปาง
(20) หลวงพ่อครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก
(21) พระอาจารย์มี วัดท่าสะต๋อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
(22) หลวงพ่อครูพุฒิ วัดม่อนคีรีชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
(23) หลวงพ่อแก้ว สุมโน วัดพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
(24) พระอาจารย์วิมล วัดถ้ำเขาปูน จังหวัดกาญจนบุรี
รุ่งขึ้นวันใหม่ (วันที่ 11 เมษายน 2514) เวลา 06.00 น. เจ้าคุณพระธรรมราชานุวัตร วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่ องค์ดับเทียนชัย และเวลา 07.00 น. ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ พระสงฆ์อนุโมทนา
เป็นเสร็จพิธีงานพุทธาภิเษก

ด้านเนื้อหาวรรณะของพระกริ่งแก้วฯ เนื้อในจะเป็นสีแดงอมนาคโทนออกสีแสดแดง ถ้าผ่านการสัมผัสอากาศผิวนอกจะกลับดำอมเขียว อย่างไรก็ตามบางองค์อาจมีผิวเหลือบเงินก็ได้ และสำรับผิวชั้นนอกในบางองค์จะมีสนิมสีดำประปราย ถ้ามองดูที่ก้นจะเป็นฝาปิดทองเหลือง เข้าด้วยการตอก และเชื่อมประสานด้วยเงิน วรรณะของพระกริ่งใหญ่และกริ่งเล็กจะเหมือนกัน สำหรับกริ่งเล็กบางองค์อาจมีดินเบ้าอยู่ตามซอกบ้าง ส่วนกริ่งใหญ่อาจไม่เห็นแล้วจะเหลือผิวสีดำอยู่ตามซอกแทน

ส่วนฝีมือหรือรูปแบบการแต่งส่วนใหญ่จะเหมือนกันจะแตกต่างที่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ บ้าง ซึ่งถ้าเป็นพระกริ่งหล่อในพิธีและจำนวนรวมถึง 1,000 องค์แล้ว ช่างย่อมมีเวลาน้อยที่จะเก็บรายละเอียดให้เหมือนกันทุกองค์ อย่างไรก็ตามเนื้อในและธรรมชาติของรุ่นนี้ย่อมเหมือนกัน กริ่งเล็กส่วนใหญ่จะมีการเซาะร่องที่ตัวหนังสือด้านหลังให้จมและคมชัดยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นจุดที่ใช้แยกแยะของเก๊แท้ได้ประการหนึ่ง
iPOOM @ 18 มิถุนายน 2561
Cr. ต้า ลำปาง , นิรนาม

หมายเหตุ : รายนามพระเถระที่ร่วมงานอาจมีความคลาดเคลื่อนเนื่องจากยึดถือตามเอกสารชั้นต้น

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 13 ธ.ค. 2022 9:43 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
พระกริ่งไตรลักษณ์ ปี ๒๕๑๗ หลวงพ่อเกษม เขมโก หมายเลข ๙๖๔

สร้างเพียงเนื้อนวะเนื้อเดียว จำนวนสร้าง ๑,๕๙๙ องค์

วัตถุประสงค์ สร้างโบสถ์วัดอินทร์ประชาราษฎร์ ปราจีนบุรี

หลวงพ่อเกษมเททองหล่อด้วยองค์ท่านเอง ที่สุสานไตรลักษณ์เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๗

อธิษฐานจิต วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๑๗

รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 14 ธ.ค. 2022 3:14 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
เมื่อปีพ.ศ.๒๕๒๐ คุณพ่อเพื่อนไปทำบุญที่วัด ๑๘๐ บาท ตอนนี้หลักแสนต้นแล้ว
เหรียญเยือนอินเดีย เนื้อเงิน หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 16 ธ.ค. 2022 8:50 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
พระผงเกสรพุทธสิหิงค์ หลวงพ่อเกษม เขมโก ปี ๒๕๐๓

ผู้สร้างพระผงเกสรพุทธสิหิงค์ ได้พยายามที่จะสร้างพระเครื่องชุดนี้ให้ดีที่สุด จึงได้ตระเตรียมจัดหาวัสดุมวลสารที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นมงคลหลายต่อหลายอย่างโดยเริ่มเตรียมการสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๐ ซึ่งมวลสารที่นำมาสร้างพระเครื่องนั้น ต้องใช้ความพยายามและอุตสาหะอย่างยิ่งยวดกว่าจะได้มาแต่ละสิ่ง แต่ทางคณะผู้จัดสร้างก็ได้ใช้ความพยายามหามาได้หลายอย่างเช่น ดินจากสังเวชนียสถานทั้งสี่แห่งจากประเทศอินเดีย ใบลานและสมุดข่อยที่จารึกพระธรรม คัมภีร์ พระพุทธมนต์ และตำราต่างๆที่ชำรุดแล้วใช้การไม่ได้ เอามาเผาและป่นให้ละเอียด ดอกไม้ธูปเทียนที่มีผู้นำไปกราบไหว้สักการะหลวงพ่อเกษม เพราะความเลื่อมใสศรัทธา ผงขี้ธูป ก้านธูป และดอกไม้แห้งที่หลวงพ่อเกษมท่านใช้จุดและบูชาขณะบำเพ็ญภาวนา ข้าวแห้งก้นบาตรของหลวงพ่อเกษมที่เหลือจากการฉันเอามาตากแห้งบดให้ละเอียด ผงพุทธคุณจากการนำเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกหลายวัด น้ำอ้อยเคี่ยว ยางไม้บางชนิด และที่สำคัญที่สุดก็คือ เส้นผมของหลวงพ่อเกษมที่ท่านได้ปลงผมไว้จำนวนหนึ่ง.

พระเครื่องที่พิมพ์ได้ทั้งหมด ได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดหัวข่วง จังหวัดลำปาง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ โดยนิมนต์หลวงพ่อเกษม มาเป็นประธานในพิธีร่วมกับพระเกจิอาจารย์ทางภาคเหนืออีกหลายท่าน เมื่อเสร็จพิธีแล้วทางคณะผู้จัดสร้าง จึงได้นำเอาพระเครื่องออกให้ประชาชนทำบุญ เพื่อนำเอาปัจจัยมาบูรณะซ่อมแซมถาวรวัตถุทางศาสนาในวัดหัวข่วง จนสำเร็จลุล่วงตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ในตอนแรกทุกประการ สมกับที่เป็นพระเครื่องที่จัดสร้างขึ้นโดยมีเจตนาดีเป็นการกุศลอย่างแท้จริง


จากนิตยสาร”เซียนพระ” ฉบับที่ ๑๑๘ วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๖ คอลัมน์” พระผงเกสร พุทธสิหิงค์ หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง”โดย…ทักษิณ หน้าที่ ๑๔ ถึง หน้า ๑๕


รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 21 ธ.ค. 2022 2:51 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
ผ้ารอยมือรอยเท้าครูบาขาวปีมีจารดินสอ วัดพระพุทธบาทผาหนาม จ.ลำพูน
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
ได้กล่าวรับรองไว้ด้วยองค์เองทีเดียวว่า
“ครูบาขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม เคยเป็นช้างนาฬาคิริง
ซึ่งในอนาคตกาลจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้ามีพระนามว่า พระติสสสัมพุทธเจ้า"


รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. 22 ธ.ค. 2022 10:12 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
พระขุนแผนเสด็จกลับ ปี 2511 หลังดาบฟ้าฟื้นไขว้ติดเหล็กไหล พระรอดเสด็จกลับติดเหล็กไหล มวลสารว่านยา 108 ชนิด ผงเลขยันต์ตำราวัดเขาอ้อ 108 ดวง อาจารย์ชุม ไชยคีรี

พิธีแรกที่วัดบ้านสวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พระอาจารย์ รวม 108 อาจารย์ เชิญวิญญาณอาจารย์สมภารนอโมและวิญญาณอาจารย์เฒ่า เข้าประทับทรงปลุกเศก เกิดเป็นตัวต่อจำนวน 1,000 ตัว มาปิดรอบปริมณฑลพิธี มีความอัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน

พิธีวันที่ 12 มีนาคม 2510 ปลุกเศกอยู่ 33 วัน แล้วเก็บไว้ไปเข้าพิธีที่วัดถ้ำเขาเงินในปีต่อมา กล่าวถึงพิธีพุทธาภิเษกที่วัดถ้ำเขาเงิน ชุมพร เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ ปี 2511 เป็นพิธีใหญ่ที่รวมศิษย์สายเขาอ้อร่วมกันปลุกเสก ขุนพันธ์ฯเป็นประธานจัดสร้าง อ.ชุมและหลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน ร่วมกันสร้างเพื่อแจกจ่ายทหาร ตำรวจ ประชาชนที่ศรัทธา พระอาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา จ.พัทลุง, หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง, พระอาจารย์ปาล วัดเขาอ้อ, หลวงปู่หมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง, พระครูปลัดพวง วัดประสาทนิกร หลังสวน จ.ชุมพร, หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน หลังสวน จ.ชุมพร, อาจารย์ชุม ไชยคีรี เขาไชยสน จ.พัทลุง ปลุกเสกตามตำรับไสยเวทย์ของเขาอ้อ

เหล็กไหล...จากบทความของท่านอาจารย์ ชุม ไชยคีรี

"พระฤาษีปลัยโกฎ ได้พรรณนาไว้ในพระคัมภีร์โบราณว่า หากผู้ใดพบเหล็กไหลแม้แต่เท่าเมล็ดข้าวโพด หรือเท่าเมล็ดพริกไทย ก็นับได้ว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นผู้มีบุญญาอภินิหาร เพราะเป็นธาตุนิพพพานของธาตุทั้งหลาย ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตน และเป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง

ดังนั้นคุณค่าอันนับเป็นเอนกประการของเหล็กไหลนั้น จึงทำให้มนุษย์เรารู้สืบทอดติดต่อกันมาแต่ครั้งบรรพกาลแล้ว ต่างก็ได้พยายามสืบเสาะหามาไว้เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

ด้วยเหตุที่เป็นธาตุสูงสุดของธาตุทั้งปวง เหล็กไหลจึงมักจะซ่อนหลบเร้นตนเองไม่ให้มนุษย์ได้เจอะเจอง่ายๆนัก เว้นแต่จะเป็นผู้มีบุญญาอภินิหารได้เจอะเจอโดยบังเอิญ หรือเป็นผู้ที่ทรงวิทยาคมแรงกล้าเท่านั้นจึงจะนำเหล็กไหลมาไว้บูชาแก่ตนเองได้

บุราณจารย์แต่ครั้งก่อนท่านกล่าวไว้หากจะให้เกิดประโยชน์แก่ตนไซร้ ท่านให้เอาเหล็กไหลเท่าเมล็ดข้าวโพด หรือ เท่าเมล็ดพริกไทย อมไว้ในปากแล้วกลืนน้ำลายตนเองเป็นประจำทุกวัน ทำพิธีใช้อาคมเรียกเข้าไว้ในตัว ร่างกายจะคงทนแก่ปืนผาหน้าไม้ กฤช หอกทองแดง ขวากหนาม สัตว์ร้ายที่มีเขี้ยวงาและมีแรงฟัดขยี้ อาจต่อสู้กับคนหมู่มากและมีแรงมาก แม้จับตัวเราก็ไม่ติด แหวกวงล้อมและกรงขังขื่อคาไปได้ ทั้งเป็นยาอายุวัฒนะทำให้อายุยืน

อนึ่ง ท่านให้เอาเหล็กไหลเท่าเมล็ดข้าวโพด แช่น้ำผึ้งรวงกินเป็นประจำทุกเช้าเย็นจนครบ 7 วัน คงเนื้อคงหนัง 3 เดือนคงกระดูก คงถึงลูกที่เกิดมา 1 ปี หมดโรคภัยนานา 3 ปี เกิดปัญญาเรียนรู้ธรรมจบพระไตรปิฎก 7 ปี กายเบาดังสำลี หมดกิเลส (คัดจากสมุดข่อย 1,000 กว่าปี)

อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้ค้นพบเหล็กไหลในป่าลึกทางภาคใต้ของประเทศไทยเมื่อประมาณปี 2509 ทำพิธีตัดเหล็กไหลออกเป็นชิ้นเล็กเท่าเมล็ดพริกไทยถึงเมล็ดมะขามแห้ง ออกแจกจ่ายให้คณะศิษย์ทำหัวแหวนไว้เป็นเครื่องรางป้องกันตัว ส่วนหนึ่งฝังไว้หลังพระเนื้อว่านยา 500 กว่าชนิด ทรงขุนแผนออกศึก ทรงรูปอาจารย์วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง ฯลฯ


รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 23 ธ.ค. 2022 3:35 pm 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 27 ก.ย. 2016 11:16 am
โพสต์: 163
พระพุทธภูมิประทานพร เนื้อดินดิบ
หลังจารเปียก จารยันต์เฑาะว์ จ้อย นฐ (นครปฐม)


หลวงพ่อจ้อย วัดบางช้างเหนือ จ.นครปฐม
ท่านเป็นพระอาจารย์สอนพระกรรมฐานเวทย์วิทยาคมให้กับหลาย ๆ ท่านแต่ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมี
๑. หลวงพ่อรุ่ง วัดดอนยายหอม ลาสิกขาช่วงสูงอายุเพื่อให้หลวงพ่อเงินเป็นเจ้าอาวาส พระเครื่องของท่านหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม บูชาในย่ามจนตลอดชีวิต พระเครื่องของท่านใส่ในน้ำขุ่น นี่ใสได้เลยเสือผาดลองให้ดูหลายครั้ง
๒. พระภิกษุพรหม บัวโต ลาสิกขาหลังจากหลวงพ่อจ้อยมรณภาพ โยมบิดาหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
๓. เจ้าคุณพรหม วัดกัลยา กรุงเทพ
๔. หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม
หลวงพ่อจ้อยท่านเป็นสหธรรมมิก หลวงปู่ทา วัดพะเนียงแตก หลวงปู่ช้าง วัดศิลามูล มรณภาพ ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๔๐-๒๔๔๒ ๘๒ พรรษา


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 159 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 17 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO